ไทย จัดชุดใหญ่ไล่ถล่ม พม่า 4-0 ขึ้นนำจ่าฝูง สายA

ไทย จัดชุดใหญ่ไล่ถล่ม พม่า 4-0 ขึ้นนำจ่าฝูง สายA

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 นัดที่ 2 ณ สนามเนชั่นเนลสเตเดี้ยมออฟสิงคโปร์ ทีมชาติไทย ที่ชนะมาในนัดแรกแบบหืดจับ จะต้องพบกับ ทีมชาติเมียนมาร์ ที่ลงแข่ง 2 นัด แล้วชนะ 1 แพ้ 1 สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ทัพช้างศึกใช้ระบบ 4-4-2 หรือ 4-2-2-2 ส่วนสิงห์พุกามใช้ 4-5-1

ช่วงต้นเกม เมียนมาร์พยายามเข้าหาบอลไวแลปั้มบอลให้อยู่ในจังหวะ 50 50 ซึ่งมันก็มีผลให้ ไทย ต้องพยายามออกบอลเร็ว โดยการต่อบอลของทัพช้างศึก บอลสั้นและในพื้นที่ใกล้ๆมีความแม่นยำ แต่พอต้องโยกหรือโยนเปลี่ยนแกน จะไม่ค่อยแม่นยำ กระนั้นการโจมตีริมเส้นที่เป็นจุดเด่น ก็ได้เป็นผลให้ ไทย ขึ้นนำ 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ ธีรศิลป์ ยิงดีและเฉียบคม แต่เกมรับของเมียนมาร์ ก็ผิดพลาดที่เปิดพื้นที่หน้าไลน์กองหลังมากเกินไป

หลังจากมีประตูแรกของเกม เมียนมาร์ พยายามจะต่อบอลบุกบ้าง แต่มันก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะถูกคู่แข่งเพรสซิ่งสูงจนเสียบอลตลอด อีกทั้งยังเกือบโดนยิงทิ้งห่างหลายหน แต่เพราะความไม่เฉียบคม จึงทำให้โดนแค่ลูกเดียว อย่างไรเสียช่วงท้ายครึ่งแรก นักเตะสิงห์พุกามก็เริ่มแสดงออกอ่อนแรง กับการไม่เข้าหาบอลเร็วอีกแล้ว

ครึ่งหลัง ไทย ยังคงเหนือกว่า แต่ยังไม่ได้ประตูเพราะหลายจังหวะเลือกเอาชัวร์มากเกินไป กระนั้นยังดีที่มาได้ประตู 2-0 จากจุดโทษที่กองหลังคู่แข่งเตะพรวด จากนั้น ไทย เริ่มจะเล่นแบบผ่อนคลายและส่งตัวสำรองลงมาเพื่อให้ป้องกันตัวหลักบาดเจ็บ แต่สำหรับทางฝั่ง เมียนมาร์ พวกเขาเปลี่ยนเพื่อแก้เกมและเปลี่ยนเป็นกองหน้า 2 ตัว พร้อมกับใช้บอลยาวจากริมเส้นให้มากขึ้น

เกมรับของ ไทย แทบจะไม่มีบททดสอบ แต่การจ่ายบอลพลาดเองมีผลให้ เมียนมาร์ เอาไปจู่โจมจนเกือบโดนยิงตีตื้น ซึ่งยังเดชะบุญที่รอดตัว จากนั้นพอตัวสำรองลงมา ก็เริ่มจะกลับมาบดให้แนวรับที่เริ่มอ่อนแรงไปมาก สุดท้ายจึงมาได้เพิ่มอีก 2 ลูก เป็น 4-0

บทสรุปจาเกม ทีมชาติไทย มีปัญหาการส่งบอลในแดนตัวเอง ซึ่งตรงจุดนี้ต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วนก่อนไปถึงรอบลึกๆ ส่วนเกมรุก ทะลุทะลวงได้แบบหมดใส้ แต่ความเฉียบคมในการจบสกอร์ บางทียิงพลาดเอง บางทีเล่นหลายจังหวะมากเกินไป ฉะนั้นในส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องปรับเหมือนกัน เพราะหากเฉียบคมจริงๆ ต้องมี 7-8 ลูก

ขณะที่ ทีมชาติเมียนมาร์ เกมรับพยายามเข้าหาบอลเร็ว แต่ผ่านไปไม่ได้นานก็หมดแรง ทำให้โดนโจมตีแบบรัวๆจนไม่ได้หายใจ อีกทั้งการถูกเพรสซิ่งก็แทบจะขึ้นบอลไม่ได้ เช่นกันกับเกมรุกที่ไม่เห็นถึงไอเดียใดๆ