เปิดตัวเลขค่าเหนื่อย อดิศักดิ์ ไกรษร หากลาบอลไทย เพื่อไปเล่น เคลีก
เปิดตัวเลขค่าเหนื่อย อดิศักดิ์ ไกรษร หากลาบอลไทย เพื่อไปเล่น เคลีก
หากพูดถึงกองหน้าทีมชาติไทย นอกจาก ธีรศิลป์ แดงดา อีกคนก็คงจะไม่พ้น อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ในฤดูกาล2020-2021ที่ผ่านมาได้ไปเล่นให้กับ การท่าเรือ เอฟซี ด้วยสัญญายืมตัว
ล่าสุดต้นสังกัดที่แท้จริงอย่างเมืองทองนั้นได้รับการติดต่อจากสโมสรซูวอนซัมซุงบลูวิงส์สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกเคลีกเกาหลีใต้เพื่อทำการขอยืมตัวอดิศักดิ์ไกรษรไปเสริมความแข็งแกร่งเป็นเวลาประมาณ 7 เดือน โดยเสนอค่าเหนื่อยเทียบเท่ากับที่ได้รับจากเมืองทอง ก็คือประมาณ 500,000 บาท พร้อมกับค่าเซ็นสัญญาอีก 1,000,000 บาทเลยทีเดียว
นั้นขั้นต้นนั้นทางเมืองทองได้ปฏิเสธดีลนี้ไปเรียบร้อยแล้วเพราะทางเมืองทองต้องการจะเก็บอดิศักดิ์ ไกรษรใช้ในศึกไทยลีกในฤดูกาล 2021-2022 ที่กำลังจะมาถึง แต่หากมีการยื่นข้อเสนอเข้าไปใหม่ที่เป็นน่าพอใจของทางเมืองทองก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะถือว่าเป็นความต้องการของนักเตะเองที่ต้องการย้ายไปเล่นต่างประเทศสักครั้ง ด้วยวัย 20 ปี นี่อาจจะเป็นสัญญาจากต่างประเทศครั้งสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลก็เป็นได้ แถมฟุตบอลเคลีก ก็ยังเป็นลีกแถวหน้าของเอเชีย ซึ่งโอกาสดี ๆ แบบนี้ในชีวิตคงมีไม่บ่อยนัก
สุดท้ายก็คงต้องรอดูกันต่อไปเพราะยังไงก็ขึ้นอยู่กับทางเมืองทองที่ถือสัญญาอยู่แต่เชื่อว่าดีลนี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะที่ผ่านมาเมืองทองก็สนับสนุนให้นักฟุตบอลในสังกัดได้ย้ายไปเล่นต่างประเทศที่มีมาตรฐานลีกที่ดีกว่าอยู่แล้ว
สำหรับ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เป็นชาวจังหวัด บุรีรัมย์นั้น 2006-2008 ได้แจ้งเกิดกับวงการลูกหนังนักเรียนกับ กรุงเทพคริสเตียน และได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมเมืองทอง ในปี 2009 และถูกส่งไปให้ ทีมภูเก็ต เอฟซี ยืมตัวไปใช้งาน จนถึงปี 2010 โดยลงสนามไป 31 นัดยิงได้ 8 ลูก ต่อมาในช่วงปี 2011-2014 ก็ได้กลับไปบ้านเกิด โดยเล่นให้ทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวลงเล่นไป 70 นัด ยิงไป 12 ประตู ก่อนที่ปีถัดมาคือปี 2015 จะไปเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน ลงเล่นไป33 นัด ยิงไป 10 ประตู แล้วกลับไปเล่นให้เมืองทองอีกครั้งในปี 2016-2019 และระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาโดยกดไป 26 ประตู จากการลงสนาม 64 นัด จนในฤดูกาลล่าสุด 2020-2021 ได้ย้ายไปเล่นให้กับการท่าเรือแบบยืมตัว
ด้วยสถิติการยิงประตูในบอลไทยลีกได้ต่อเนื่องขนาดนี้ เจ้าตัวคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกต่อไป มีความท้าทายเดียวในตอนนี้สำหรับอาชีพนักฟุตบอล ก็คือการไปพิสูจน์ตัวเองในลีกต่างประเทศเพียงเท่านั้น