เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

วันนี้ผู้เขียนได้ติดต่อโดราเอมอนขอเข้าลิ้นชักนั่ง Time Machine พาพวกเราไปย้อนรอยเส้นทางของขุนพลลูกหนังผู้นี้กันอย่างคร่าวๆ ซิโก้เกิดเมื่อ 11 ส.ค.16 เด็กหนุ่มจากอุดรผู้นี้ วิ่งไล่ตามความฝันด้วยความรักและความมุ่งมั่นเขาติดทีมชาติชุดเยาวชนครั้งแรกในปี 2533ไปแข่งที่มาเลเซียและขยับขึ้นติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2536 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 24 ผลงานที่โดดเด่นคือการคว้าแชมป์ซีเกมส์ถึง 3 สมัยติตด่อกันคือครั้งที่ 17 18 และ19 ความจัดจ้านของนักเตะผู้นี้โด่งดังจนปี 2542ได้รับเชิญให้ไปทดสอบฝีเท้าในลีกที่ถือว่าที่ดีสุดในโลกนั่นคือพรีเมียร์ลีกที่อังกฤษกับสโมสรทีมมิดเดิลสโบรส์ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศในขณะนั้นเลยทีเดียว

หากเราจะเอ่ยถึงกีฬาของลูกผู้ชายก็คงจะหนีไม่พ้นฟุตบอล แล้วถ้าพูดถึงฟุตบอลชื่อขุนพลลูกหนังผู้ที่ปลุกกระแสให้บอลไทยวันนี้เป็นกีฬาที่มีผู้ชมกลับมาเต็มทุกที่นั่ง บัตรเข้าชมขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว มีแฟนบอลสาวๆสวยๆ (มาดูบอลหรือดูนักเตะกันนะ) ก็ถือว่าเป็นสีสันของสนามได้ดีเลยทีเดียว มีสโมสรต่างๆเกิดขึ้นมากมาย มีสนามฟุตบอลในร่มแบบหญ้าเทียมแม้หน้าฝนเราก็เล่นกันได้ รวมทั้ง Football Academy เพื่อผลิตนักเตะที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในสายอาชีพนี้เฉกเช่นตำนานศูนย์หน้าจอมตีลังกา ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นี่ขนาดแม่ผู้เขียนอายุ 76 แล้วนะพอพูดถึงฟุตบอลท่านก็เอ่ยทั้งฉายาและชื่อนามสกุลนักเตะผู้นี้ได้อย่างแม่นยำ เรียกได้ว่าครองใจแฟนบอลชาวไทยตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันให้หันกลับมาติดตามกีฬาบอลไทยวันนี้มากขึ้นได้จริงๆ

ต่อมาปี 2543 ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นจนเข้าตา สตีฟ บรูซ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ยูในเต็ด ขณะนั้นนั่งแท่นผู้จัดการสโมสรฮัดเดอร์ฟิลด์ ทำให้ซิโก้ถูกเลือกให้ไปค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดี ด้วยค่าแรงอาทิตย์ละ 3,000 ปอนด์เลยทีเดียว

บอลไทยวันนี้ ต้องยอมรับว่าซิโก้ คือ นักบอลต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจสำหรับใครอีกหลายคนที่ต่างมีความฝันอยากจะรับใช้ชาติ อยากได้รับคัดเลือกให้ร่วมเล่นในสโมสรต่างๆ และที่สุดของความฝันนั่นคือการได้ไปค้าแข้งอยู่ในลีกที่ดีที่สุดของโลกที่เมืองผู้ดีแม้สัก 1 ฤดูกาลก็ปลื้มแล้ว เพราะสิ่งที่เราได้มากกว่าค่าแรงคือปประสบการณ์ และทักษะที่ได้กับตัว ไม่อาจหาซื้อได้จริงๆ