อากิระ นิชิโนะ โค้ชทีมชาติไทย
อากิระ นิชิโนะ โค้ชทีมชาติไทย
เชฟชั้นดีย่อมคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ เปรียบเทียบกับความสามารถของนักเตะระดับทีมชาติแต่ละคนที่ถูกปรุงรสชาติอาหารสูตรเฉพาะเพื่อให้แฟนคลับ ผู้ชมขอบสนาม หรือแม้กระทั่งผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน ลิ้มรสได้ด้วยทางสายตา มีเชฟชั้นดีอย่าง อากิระ นิชิโนะ อดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวญี่ปุ่นที่ประสบการณ์ผ่านร้อนหนาวด้วยผลงานชิ้นเยี่ยมเต็มมือ มาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยช้างศึก และทีมชาติเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี
นิชิโนะได้สร้างตำนานพาทีมกัมบะ โอซากะ คว้าแชมป์ถึง 4 รายการ ในญี่ปุ่น คือ ครองถ้วยจักรพรรดิสองสมัย ในปี 2008/2009 แชมป์เอเอฟซี แชมป์เปี่ยนลีกปี 2008 แชมป์เจลีก ปี 2005 และ แชมป์เจลีกคัพสองครั้งในปี 1999/2007 เคยเป็นโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นเข้าแข่งขันโอลิมปิกในปี 1996 ก่อนที่จะเป็นโค้ชทีมชาติของบอลไทยวันนี้ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยกับญี่ปุ่น เขาจะเฝ้าศึกษาแผนการเล่นของทีมชาติไทยทุกนัด เพื่อศึกษาเทคนิคการเล่นของนักเตะแต่ละคน นิชิโนะมองว่านักเตะไทยมีความสามารถเฉพาะตัวที่สามารถพัฒนาไปให้ไกลได้อีก จึงตัดสินใจเข้ามาดูแลและปรับแผนการเล่น วางกลยุทธ์ต่างๆ ตามความท้าทายของตัวเขาเอง ที่จะเป็นเส้นทางพาลูกทีมช้างศึกไปสู่การแข่งขันบอลโลกในรอบที่ลึกที่สุด
เริ่มแรกที่เข้ามาบริหารทีม นิชิโนะเห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมพื้นฐานการใช้ชีวิตคนไทยและญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเคร่งครัดกับระเบียบวินัยและรับผิดชอบต่อตัวเองสูง อีกทั้งกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ส่วนคนไทยจะใช้ชีวิตสบายๆ เช่น เวลาพักผ่อนจากการฝึกซ้อมนักเตะญี่ปุ่นจะศึกษาเทคนิคปรับปรุงการเล่นของตัวเอง แต่คนไทยจะนั่งทำกิจกรรมส่วนตัวที่ตัวเองชอบเพื่อรอเวลา จึงทำให้นิชิโนะต้องปรับพื้นฐานของนักเตะก่อน และต้องใช้เวลาพอสมควร อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมชาติไทยยังทำงานผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
อาจจะเป็นงานค่อนข้างหนักของนิชิโนะในการปรับตัวนักเตะแต่ละคน แต่ผลงานของเขาที่ทำให้ ทีมบอลไทยวันนี้ได้ขยับพัฒนาขึ้นมาบ้าง ก็คือ เก็บ 7 คะแนนจากการลงเล่น 3 นัด และได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่มจี ในการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบที่ 2 ถึงบอลไทยวันนี้จะพ่ายให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรด ทำให้ยังไปไม่ถึงฝั่งฝันก็ตาม แต่นิชิโนะเคยยบอกว่า “ถึงแม้การไปบอลโลกจะเป็นภารกิจที่ยาก แต่ก็เชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ในโลกของลูกกลมๆ
อากิระ นิชิโนะ โค้ชทีมชาติไทย
# สนามศุภชลาศัย
