สนามศุภชลาศัย
สนามศุภชลาศัย
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ท่อนหนึ่งของเพลงกราวกีฬาที่ติดหูกันตั้งแต่เด็กจนโต กีฬาที่นอกจากจะเป็นยาวิเศษแล้ว ในปัจจุบันยังเป็นอาชีพที่ใครก็ตามที่มีพรสวรรค์แต่ไม่มีต้นทุนชีวิตที่เกิดมาเพียบพร้อมต่างมีความใฝ่ฝันที่จะก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอล บอลไทยวันนี้มีการพัฒนาจากอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างก้าวกระโดด อาชีพนักบอลไทยวันนี้มีรายได้ที่เป็นเสมือนรางวัลสำหรับคนที่มีฝันมีความมุ่งมั่นมีวินัยและมีความทะเยอยานกระหายในการคว้าความฝันมาทำให้มันเป็นความจริง
เมื่อฟุตบอลมีการพัฒนามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น กฎ กติกา เสื้อผ้านักเตะจนถึงลูกบอล ที่เป็นอุปกรณ์หลักสำหรับกีฬาประเภทนี้ สิ่งหนึ่งที่เริ่มพัฒนาเพื่อรองรับผู้หลงใหลฟุตบอลนั่นคือสนามการแข่งขันนั่นเอง ว่ากันว่าสนามฟุตบอลที่เป็นสังเวียนฟาดแข้งในยุคแรกและมีความผูกพันกับนักเตะและแฟนบอลชาวไทยในยุคแรกมาอย่างช้านานนั้นจะเป็นสนามไหนไปไม่ได้เลยนั่นก็คือสนามศุภชลาศัยหรือสนามกีฬาแห่งชาติในย่านปทุมวัน จากสนามปทุมวันผ่านกาลเวลามาสู่สนามบุรีรัมย์ สนามบอลไทยวันนี้ที่ได้รับการกล่าวถึงอยู่นั้นคงจะหนีไม่พ้น สนามไอโมบาย ของทีมบุรีรัมย์ ที่นอกจากจะเป็นสนามแข่งขันแล้วยังกลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของผู้คนที่มาเยือนจังหวัดบุรีรัมย์ด้วยเช่นกัน สนามแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสนามที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจากสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติด้วย ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงสนามนี้พอสังเขป
ปัจจุบันชื่อที่ใช้เรียกกันอย่างเป็นทางการคือสนามช้าง อารีน่า สนามนี้แจ้งเกิดในวันที่ 11 มิ.ย.2554 ด้วยจำนวนที่นั่งที่สามารถรองรับผู้ชมได้ 24,000 ที่นั่งและต่อเติมอีกครั้งเพื่อรองรับสาวกแฟนฟุตบอลเป็น 32,600 ที่นั่งในปี 2557 สนามแห่งนี้ได้รับการบันทึกจาก world record ว่าเป็นสนามมาตรฐานที่ใช้เวลาสร้างน้อยที่สุดคือใช้เวลาในการก่อสร้างเพียงแค่ 256 วัน เป็นสนามที่ไม่มีลู่วิ่งติดสนามซึ่งเป็นสนามที่ใช้สำหรับการแข่งฟุตบอลเท่านั้น หญ้าที่ใช้ในการปูสนามเป็นหญ้าแท้สายพันธ์แพตพารัมย์จากออสเตรเลียซึ่งคุณสมบัติของหญ้าชนิดนี้จะมีความหนานุ่มเพื่อลดการบาดเจ็บของนักเตะได้ดีทีเดียวพื้นสนามใต้หญ้าปูด้วยไฟเบอร์แซนด์ที่ช่วยในการระบายน้ำได้ดีและเร็ว ทำให้น้ำไม่ท่วมขังสนามเมื่อเวลาฝนตกหนัก สีหลักที่ใช้คือสีน้ำเงิน ต้องยอมรับเลยว่าสนามช้างแห่งนี้สามารถ บ่งบอกได้ถึงวิวัฒนาการและถือเป็นสนามต้นแบบของบอลไทยวันนี้ได้อย่างชัดเจนจริงๆ