ศศลักษณ์ ไหประโคน ตำแหน่ง แบ็กซ้าย หรือ ปีกซ้าย
ศศลักษณ์ ไหประโคน ตำแหน่ง แบ็กซ้าย หรือ ปีกซ้าย
เป็นอีกหนึ่งนัก ฟุตบอลไทย ที่ถือว่ามีประสบการณ์ในต่างประเทศ ค่อนข้างมากพอสมควร สำหรับ ศศลักษณ์ ไหประโคน หรือ เจ้า พี เพราะในตอนนี้แม้ว่าตัวเค้าเองนั้น จะได้ชื่อว่าเป็น นักบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ก็ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นอยู่ใน เคลีก ของเกาหลี ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี ถือเป็นนักฟุตบอลไทยคนที่สอง ที่ได้มีโอกาสไปค้าแข้งที่ประเทศเกาหลี ซึ่งคนแรก คือ เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นั่นเอง โดยเจ้าพี นั้นไปเล่นให้กับ ซ็อนบุกฮุนไดมอเตอร์ ซึ่งเป็นสโมสรชั้นนำของเกาหลี
ประวัติ ศศลักษณ์ ไหประโคน
เจ้าพี เกิดเมื่อวันที่ 8 มาราคม 1996 ปัจจุบันอายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัด บุรีรัมย์ โดยกำเนิด ส่วนสูง 1.71 เซนติเมตร สวมเสื้อหมายเลข 2 เล่นในตำแหน่ง แบ็คซ้าย หรือ ปีกซ้าย ให้กับ สโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าพีนั้น เริ่มเล่นฟุตบอลในสโมสรเยาวชนของสรุศักดิ์มนตรี ในปี 2554 – 2556
หลังจากนั้นเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ กับสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2557 – 2560 หลังจากนั้นด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้ถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นยืมตัวไปในปี 2560 และซื้อขาดในปี 2561 และในปี 2564 เจ้าพี ได้ถูกปล่อยบยืมตัวไปหาประสบการณ์ในเคลีก กับ ซ็อนบุกฮุนไดมอเตอร์ ในเกาหลี
ศศลักษณ์ ไหประโคน นักฟุตบอลไทยคนที่สอง ที่ได้แชมป์ เคลีก
เมื่อประมาณ 35 ปีก่อนนั้น ฟุตบอลไทย ถือว่าเป็นยุคที่ค่อนข้างรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ในพื้นที่เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่าเป็นทีมที่มีนักเตะเก่งๆ อยู่มากมาย รวมทั้ง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นักที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดของไทยในช่วงเวลานั้น และเป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลลีกในต่างประเทศ
โดยได้แชมป์เคลีก จากประเทศเกาหลี และ เจ้าพี ถือว่าเป็นนักฟุตบอลคนที่สอง ต่อจาก เดอะตุ๊ก ที่ได้แชมป์ เคลีก จากประเทศเกาหลี ถึงแม้ว่าตัวเจ้าพีเองนั้น มักจะไม่ค่อยได้รับโอกาส ในการลงพิสูจน์ฝีเท้ามากเท่าที่ควรก็ตาม
เกียรติประวัติสำคัญ ศศลักษณ์ ไหประโคน
ซึ่งในช่วงที่เจ้าพีนั้น อยู่กับ สโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวเค้าเองได้กวาดแชมป์ไปหลายแชมป์ โดยเริ่มที่แชมป์ไทยลีก 3 สมัย ในปี 2560 – 2561 , 2561 – 2562 และ 2564 – 2565 ตามด้วยแชมป์ไทยเอฟเอคัพ 1 สมัยในปี 2564 – 2565 แชมป์ไทยลีกคัพ 1 สมัยในปี 2564 – 2565
และยังได้แชมป์ ไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนชิพอีก 1 สมัยในปี 2562 – 2563 และยังได้รับเหรียญทองจากีฬาซีเกมส์อีก 1 เหรียญ ในปี 2560 – 2561 เป็นอีกหนึ่งคนที่ถือว่าน่าจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญ ให้กับ ฟุตบอลไทย ได้อย่างแน่นอนสำหรับแบ็กซ้ายตัวเก่งตัวนี้