ศศลักษณ์ ไหประโคน กับสถานะแข้งไทยคนแรกในรอบ 35 ปี

ศศลักษณ์ ไหประโคน กับสถานะแข้งไทยคนแรกในรอบ 35 ปี

จริงๆแล้ว ชุนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส เคยยื่นข้อเสนอมาเมื่อช่วงต้นปี แต่ทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปฏิเสธไปตามระเบียบ เนื่องด้วยนายใหญ่แห่งถิ่นปราสาทสายฟ้าเคยลั่นวาจาไว้ว่า หากนักเตะไทยของบุรีรัมย์ จะไปค้าแข้งต่างแดน จะต้องไปเล่นในยุโรปเท่านั้น ถึงกระนั้นในวันนี้ คำกล่าวที่ว่าอาจมีการเปลี่ยนแนวคิด เพราะลีกไทยยังมีคุณภาพที่ไม่เทียบเท่ากับ เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น อีกทั้งการที่นักเตะไทยไปอยู่ในลีกญี่ปุ่น มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่านักเตะไทยของเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้น ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ปล่อย ศศลักษณ์ ไหประโคน ในช่วงต้นปี น่าจะเป็นเพราะต้องการเก็บตัวไว้ช่วยทีมก่อน แล้วค่อยปล่อยตัวไปในช่วงปิดฤดูกาล เพื่อที่จะได้หาตัวแทนได้ทันเวลา
จนถึงขณะนี้ ถือว่ามีโอกาสมากกว่า 90% ที่ เจ้าพี ศศลักษณ์ ไหประโคน จะกลายสภาพเป็นแข้งไทยคนแรกในรอบ 35 ปี ต่อจาก เพชฌฆาตหน้าหยก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่ไปค้าแข้งใน เคลีก เกาหลีใต้ โดยสโมสรที่ดาวเตะแบ็คซ้ายชาวบุรีรัมย์จะไปสังกัดด้วย คือ ชุนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส ในสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 6 เดือน

ทีนี้ข้ามไปดูฝั่ง ชุนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส นี่คือยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลเกาหลีใต้ เพราะในรอบ 10 ปีหลัง ฟันแชมป์ลีกไป 8 สมัย โดยในฤดูกาลล่าสุด พวกเขาต้องเสียตัวผู้เล่นหลักออกไปหลายราย โดยเฉพาะ คิม จิน-ซู ซึ่งเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักของทีม ที่ย้ายไป อัล-นาสต์ ในซาอุดิอาระเบีย นั่นจึงทำให้นักรบชุดเขียว ต้องสลับเอา อี จู-ยอง กับ พัค จิน-ซอง ที่เป็นตัวมหาวิทยาลัย มาสลับกันเล่น ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า ชุนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส กำลังต้องการแบ็คซ้ายที่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ทำให้การมองมาที่ ศศลักษณ์ ไหประโคน น่าจะช่วยทีมได้ เพราะเจ้าพี อยู่ข่ายโควตาอาเซียนพอดี

นับจากนี้ไปอีก 6 เดือน จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกับประสบการณ์ครั้งใหม่ของ เจ้าพี ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่จะได้ไปโลดแล่นในศึกเคลีก เกาหลีใต้ โดยเชื่อว่าความมุ่งมั่นและจิตใจที่ไม่เคยยอมแพ้ของเด็กหนุ่มจากบุรีรัมย์คนนี้ จะหนุนนำให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จ พร้อมกับการเป็นอนาคตในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมชาติไทย หากวันใดโก๋อุ้ม ธีราทร อำลาทัพช้างศึก ส่วนเมื่อครบสัญญาแล้วจะได้อยู่ต่อหรือกลับสังกัดแม่ ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากันอีกที

สำหรับ เจ้าพี ศศลักษณ์ ไหประโคน จะอยู่ช่วยทีมชาติไทยสู้ศึกฟุตบอลโลก ที่ประเทศยูเออี ก่อน จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็จะกลับไทย เพื่อเตรียมความพร้อม แล้วบินไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อรายงานตัวกับต้นสังกัดใหม่ต่อไป