ย้อนดูผลงานทั้ง 4ครั้ง ทีมชาติไทยชุดยู23 ก่อน โค้ชโย่ง จะเข้ามาคุมทีม
ย้อนดูผลงานทั้ง 4ครั้ง ทีมชาติไทยชุดยู23 ก่อน โค้ชโย่ง จะเข้ามาคุมทีม
ทีมชาติไทยชุดยู 23 ที่มีคิวลุยศึกชิงแชมป์เอเชียในปลายเดือนตุลาคม 2564 ที่ประเทศมองโกเลียโดยทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายกับ มองโกเลีย, มาเลเซีย และลาว ซึ่งจะเป็นการคุมทีมครั้งที่สองของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ โดยมี “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 4 ซึ่งทีมชาติไทยก็ถูกคุมทีมโดยโค้ชที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงมาย้อนอดีตว่าผลงานในแต่ละครั้งเป็นยังกันบ้าง
ปี 2013
ถือเป็นครั้งแรกที่ เอเอฟซีจัดการแข่งขันรายการนี้ขึ้นมา ทีมชาติไทยได้ มาโน่ โพลกิ้ง คุมทีม ซึ่งมีนักเตะชื่อดังอยู่หลายคนเช่น ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นต้น แต่ไทยก็ตกรอบคัดเลือกอย่าน่าผิดหวังด้วยการแพ้ เกาหลีเหนือ แพ้ลาว (เจ้าภาพ) เสมอจีน ชนะเพียงฮ่องกง กับ กัมพูชาเท่านั้น
ปี 2016
คุมทีมโดย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นักเตะชุดนี้ถือเป็น ยู 23 ที่ดีชุดหนึ่งเท่าที่เคยมีมา และผ่านการคว้าแชมป์ซีเกมส์ มา 2 สมัย แถมยังได้ที่ 4 ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ นักเตะหลายคนติดทีมชุดใหญ่คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกมาแล้ว ทีมชาติไทยผ่านรอบคัดเลือกแบบไม่ยากเย็น พร้อมกับคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่กาตาร์ การแข่งขันรอบสุดท้าย ผลงานของทีมชาติไทยคือ เสมอซาอุดีอาระเบีย แพ้ญี่ปุ่น เสมอเกาหลีเหนือ ทำให้ทีมชาติไทยต้องตกรอบอย่างน่าเสียดาย
ปี 2018
เป็นการคุมทีม ยู 23 ครั้งแรกของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่ในรอบคัดเลือกทำผลงาน เสมอมองโกเลีย ชนะมาเลเซีย เสมออินโดนีเซีย ผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายที่จีนได้อย่างหวุดหวิด
แต่โค้ชโย่งก็ไม่สานต่อผลงานเมื่อตัดสินใจแยกทางกับสมาคมฟุตบอล หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย
สมาคมฟุตบอลจึงได้ โซรัน ยานโควิช เข้ามาคุมทีมและผลงานก็ยากที่จะรับได้เมื่อการแข่งขันรอบสุดท้ายที่อยู่ร่วมกลุ่มกับ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ และปาเลสไตน์ ซึ่งทีมชาติไทยแพ้รวดไม่มีแม้แต่แต้มเดียว
ปี 2020
ถูกคุมทีมโดย อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ที่รับหน้าที่คุมทั้งยู 23 และทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งทีมยู 23 ได้ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพ ไทยสามารถเอาชนะบาห์เรน แพ้ออสเตรเลีย เสมออีรักทำให้ผ่านเจ้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งต้องไปเจอกับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทีมชาติไทยโดยลูกจุดโทษท้ายเกมแบบน่ากังขาตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย