ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 เอาไงดี

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 เอาไงดี

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่ท่าทีจะคลี่คลายลงง่ายๆ ก็ได้มีผลให้การเปิดฤดูกาลของฟุตบอลลีกไทยตั้งเลื่อนออกไปอีกครั้งในต้นเดือนกันยายน จากเดิมที่วางไว้ต้นเดือนสิงหาคม แต่กระนั้นก็ยังมีความกังวลและสงสัย ว่าโปรแกรมเตะจะไปสิ้นสุดตรงไหน ทีมชาติจะมีโปรแกรมหรือไม่ และสุดท้ายถ้าแข่งแบบปกติไม่ได้ จะทำยังไงต่อไป

อย่างแรกสุด สมาคมฟุตบอลจะเรียกสโมสรสมาชิกทั้ง 16 ทีม มาตกลงร่วมกัน โดยตั้งธงไว้ก่อนว่าฟุตบอลไทยจะต้องแข่งให้ได้ และต้องมีกรอบระยะเวลาที่ต้องเตะให้จบในเดือนพฤษภาคมปีหน้า เพราะหากเกินว่านนั้นจะมีปัญหาในเรื่องสัญญานักเตะเหมือนที่ผ่านมา โดยแผนแรกที่ถูกนำมาถก คือ ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองว่าเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้น ก็จะเตะเหย้า-เหย้า แบบไม่มีคนดู แต่ถ้าสถานการณ์ยังเลวร้าย ก็จะเลื่อนการแข่งขันออกไปครั้งละ 2 สัปดาห์ อย่างไรเสียการเลื่อนโปรแกรมจะเลื่อนไปถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น แล้วจะปรับรูปแบบการแข่งขันเป็นแบบบั้บเบิ้ล

การแข่งขันแบบบั้บเบิ้ลมีอยู่ 2 แนวทาง ซึ่งถูกเสนอจากตัวแทนของ ชลบุรี เอฟซี โดยแนวทางแรก จะจัดแบบมินิบั้บเบิ้ล ด้วยการมีสนามกลาง 4 แห่งแล้วเป็น 4 กลุ่ม โดยใน 4 ทีมของทุกสายจะต้องไม่มีใครเป็นเจ้าภาพเพื่อความได้เปรียบ จากนั้นการแข่งขันจะเล่น 3 แมตช์ ใน 1 สัปดาห์ แล้วเวียนสนามกลางไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งจากแนวทางนี้คาดการณ์ว่า 2 เดือน ก็จะเตะเลกแรกได้จบ ขณะที่แนวทางที่ 2 คือ การเตะแบบบั้บเบิ้ลทั้ง 16 ทีม ซึ่งจะต้องไปหาพื้นที่กลางสำหรับการแข่งขัน อีกทั้งพื้นที่กลางนั้นจะต้องมีสนามฟุตบอลมาตรฐานอยู่ใกล้ๆกันอย่างน้อย 4-6 สนาม โดยมาตรการณ์จะนี้จะใช้ต่อเมื่อสถานการณ์เลวร้ายจนภาครัฐออกมาตรการห้ามเดินทางข้ามจังหวัดแบบขาด สุดท้าย 2 มาตรการบั้บเบิ้ลนี้ จะถูกพิจารณาอีกครั้งก่อนเริ่มแข่งขันในเลกที่ 2

สำหรับมาตรการบั้บเบิ้ล แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ก็มีแนวทางเสนอว่าให้ตัดเงินอุดหนุนจากสมาคมที่จะนำมาให้สโมสรสมาชิกไปเลย ทีมละ 3 ล้านบาท จากนั้นถ้าเหลือเท่าไร ก็นำมาจ่ายให้กับสโมสร ฉะนั้นตรงส่วนนี้เป็นที่ยอมรับร่วมกัน พร้อมกับต้องจำยอมว่าอาจมีทีมเสียผลประโยชน์ไปบ้าง ส่วนเกมทีมชาติ สมาคมฟุตบอลได้วางแนวทางฟุตบอลลีกต้องมาก่อน โดยจะยกเลิกการเก็บตัวในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ออกไป 3 วัน เพื่อนำโปรแกรมลีกไปอัดให้เต็ม นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่ต้องทำงานร่วมกัน คือ การทำเรื่องไปที่ สคบ ซึ่งต้องมีมาตรการที่รัดกุมไปเสนอและค่อนข้างยากที่จะได้การอนุญาต เพราะเนื่องด้วยข้อกฎหมายที่ออกมา นอกเสียจากว่าต้องร้องขอในกรณีพิเศษ