ทำไมโค้ชญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ถึงกลายเป็นที่ต้องการของวงการลูกหนังอาเซียน
ทำไมโค้ชญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ถึงกลายเป็นที่ต้องการของวงการลูกหนังอาเซียน
ในแวดวงฟุตบอลอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นสโมสรหรือทีมชาติ ต่างมีการพัฒนาทีมกันอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อหวังจะให้มีผลงานที่ดี โดยสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการบ่งชี้ทิศทางของทีม ก็คือโค้ช ซึ่งในช่วงหลังๆจะเห็นได้ว่าโค้ชสัญชาติเกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น กลายเป็นของนิยมไปเสียแล้วสำหรับภูมิภาคนี้
ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่าบุคลากรโค้ชนับเป็นอัญมณีสำคัญของวงการฟุตบอล เพราะหากประเทศใดมีโค้ชคุณภาพดีในปริมาณมาก นักฟุตบอลก็จะได้รับการพัฒนาที่ถูกต้อง ลีกฟุตบอลพัฒนา และทีมชาติก็แข็งแกร่งตาม แต่หากชาติใดมีโค้ชคุณภาพดีน้อย การพัฒนาย่อมเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นหากหันมามองที่อาเซียนก็จะพบว่าไม่มีชาติไหนที่มีโค้ชจบโปรไลน์เซ่นส์เกินกว่าร้อยคนเลย นั่นจึงทำให้หลายทีมต้องดึงโค้ชชาวต่างชาติมาคุมทีม
เกือบทุกชาติในอาเซียน เว้นเสียแต่ มาเลเซีย กับ บรูไน เคยใช้บริการโค้ชชาวต่างชาติมาหมดแล้ว แต่มันก็ได้พบมุมมองบางอย่างที่ต่างกัน จนทำให้การทำงานร่วมกันไม่ราบรื่น สุดท้ายจึงไม่มีโค้ชชาวต่างชาติคนไหนอยู่ในเก้าอี้แบบนานๆ ซึ่งในขณะเดียวกัน ฟุตบอลเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ต่างมีการพัฒนาวงการฟุตบอลแบบรอบด้าน จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ อีกทั้ง 2 ชาติ จากเอเชียตะวันออกก็มีโค้ชคุณภาพดีนับหมื่นราย นั่นจึงทำให้สโมสรและทีมชาติในอาเซียน ต่างวิ่งไปดึงตัวโค้ชจาก 2 ชาติ มาทำงาน เพราะเล็งเห็นถึงมุมมองการทำงานและทัศนคติที่ไปทางเดียวกัน
โค้ชชาวญี่ปุ่น ในระดับสโมสร มีให้เห็นใน เอสลีก สิงคโปร์ และในไทยลีก ส่วนทีมชาติ เวียดนาม เคยใช้บริการ มิอูระ ขณะที่ไทย สดๆร้อนกับ อากิระ นิชิโนะ โดยจุดเด่นของโค้ชเลือดซามูไร คือ การเล่นฟุตบอลแบบมีวินัยและเป็นระบบทีมเวิรค์ แล้วนำไปผสมกับทักษะที่ดีอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้ผลงานดีขึ้นได้
โค้ชชาวเกาหลีใต้ มีให้เห็นค่อนข้างน้อยในระดับลีก ตรงข้ามกับทีมชาติที่ถูกเรียกใช้บริการหนาตา เช่น อี แต-ฮุน ที่เข้ามาทำให้กัมพูชา เป็นทีมที่สู้ได้ มิใช่แพ้ยับเหมือนที่ผ่านมา ชิน แต-ยัง ที่เข้ามาคุมอินโดนีเซีย แล้วทำให้นักเตะเดอะการูด้าวิ่งพล่านเป็นม้า ส่วนที่เห็นว่าจะเด่นที่สุด คือ ปาร์ค ฮัง-ซอ ของเวียดนาม ที่ผลงานโดนทุกเม็ด โดยจุดเด่นของโค้ชแดนโสมขาว คือ การซ้อมหนักเพื่อพละกำลังที่ต้องฟิตเต็มถัง การยืนตำแหน่งต้องถูก แต่อาจไม่ได้เน้นทีมเวิรค์มากเท่าญี่ปุ่น
จากทั้งหมดนี้จึงทำให้เห็นได้ว่านักฟุตบอลในแถบอาเซียน ชอบการการจ้ำจี้จำไช เพราะไม่ค่อยเคร่งครัดในระเบียบวินัย ซึ่งคุณสมบัติที่โค้ชเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น มี ก็ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้หายไป จนแปรเปลี่ยนเป็นผลงานที่ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ