ทำไมการไปค้าแข้งต่างแดนของ มุ้ย ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าประสบความสำเร็จ
ทำไมการไปค้าแข้งต่างแดนของ มุ้ย ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าประสบความสำเร็จ
ธีรศิลป์ แดงดา ชื่อนี้เป็นที่จดจำว่า คือ กองหน้าพรสวรรค์สูงของทีมชาติไทย ในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ส่วนในระดับสโมสรก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่อย่างไรเสียหากพูดการออกไปค้าแข้งต่างแดนของมุ้ย มันกลับตรงข้ามในแง่ที่ว่า เจ้าตัวไม่เคยประสบความสำเร็จแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง ซึ่งอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กัน
ปัจจัยในเรื่องนิสัย-ทัศนคติส่วนตัว นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ มุ้ย ไม่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งต่างแดน โดยการเล่นภายในประเทศมันไม่มีปัญหา แม้จะพูดน้อย-ไม่เป็นมิตร เพราะพูดภาษาเดียวกันและอยู่ในสภาพแวดล้มที่เคยชิน อย่างไรเสียการไปค้าแข้งต่างแดน อาทิ การไปอยู่กับ อัลเมเรีย นี่คือ สภาพแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ ภาษาไม่คุ้นเคย รวมถึงเรื่องของการยอมรับในฝีเท้าของนักเตะจากเอเชีย ซึ่งถ้าหากเราเป็นผู้มาใหม่ ก็ย่อมต้องเดินเข้าหาเพื่อนที่เป็นเจ้าถิ่น เพื่อให้เกิดความสนิทสนมและเกิดการยอมรับ แล้วสุดท้ายมันจะส่งผลต่อการเล่นในสนาม แต่ถ้าหากวางตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มันก็ยากที่ประสบความสำเร็จ เพราะต้องใช้เวลาปรับให้เข้ากับเพื่อนนานขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นที่จะส่งบอลให้จากเพื่อนร่วมทีม
สิ่งที่จะสังเกตได้เวลา ธีรศิลป์ แดงดา ออกไปค้าแข้งต่างแดน คือ ทุกครั้งจะมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี รวมถึงสถานะที่มักเป็นตัวสำรอง ซึ่งหากเจาะลงไปตอนที่อยู่ อัลเมเรีย สภาพร่างกาย ทักษะ และการเล่นให้เข้ากับระบบ มันไม่โดดเด่นสักอย่าง ขณะที่ตอนมาอยู่ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ความฟิตและทักษะเป็นรองกองหน้าเพื่อนร่วมทีม ส่วนการอยู่กับ ชิมิสึ เอสพัลส์ ไม่วิ่งไล่ ไม่ลงมาช่วยเกมรับ โดยทั้งหมดนี้หาก ธีรศิลป์ เล่นไม่เข้ากับทีมก็ย่อมถูกโค้ชจับนั่งสำรอง แต่เมื่อใดที่เจ้าตัวรู้นั่งนานเกินไป ก็จะเลือกเดินทางกลับไทย
จากปัจจัยต่างๆเหล่านี้ จึงกลายเป็นสาเหตุให้ มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดาไม่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งต่างแดน ซึ่งมันนับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะมันอาจพูดได้ไม่เต็มปากว่านี่ คือ ผู้เล่นระดับระตำนาน เหมือน เจ ชนาธิป หรือ อุ้ม ธีราธร ที่ถึงขั้นพาทีมคว้าแชมป์เจลีก นอกจากนี้เรื่องที่น่าเสียดายอีกอย่าง คือ โอกาสที่จะไปค้าแข้งต่างแดนมันจบลงแล้ว เพราะด้วยอายุที่มากขนาดนี้ ผนวกกับประวัติที่ผ่านมา ซึ่งคงไม่มีใครอยากเสี่ยงอีก